Tuesday, October 21, 2025
Homeเทคนิค-ความรู้คู่มือเกษตรกร-ด้านพืชสวก. จับมือ มก. เปิดตัว ถั่วลิสง KU ARDA 20 และ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์ใหม่ ชูจุดเด่น “ทนแล้ง...

สวก. จับมือ มก. เปิดตัว ถั่วลิสง KU ARDA 20 และ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์ใหม่ ชูจุดเด่น “ทนแล้ง โตดี ใช้น้ำน้อย ผลผลิตสูง”

         นางสาวกุลวรา โชติพันธุ์โสภณ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร เป็นประธานพิธีเปิดงาน “ร่วมมือ ร่วมพัฒนา ร่วมวิจัยมก. – สวก.” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมเดี่ยวพันธุ์ใหม่ และ ถั่วลิสง KU ARDA 20 ในพื้นที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่เพื่อเพิ่มผลผลิต สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร
         พร้อมนี้ได้มีการส่งมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์ใหม่ (พันธุ์สุวรรณ 5720 และสุวรรณ 5821) จำนวน 400 กิโลกรัม ให้แก่สภาเกษตรกรจังหวัดนครราชสีมาและเกษตรกรเข้าร่วมงาน จำนวน 50 คน เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเกษตรกรในพื้นที่ได้ทดลองใช้พืชพันธุ์ดังกล่าวโดยมี รศ.ดร.สุตเขตต์ นาคะเสถียร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่าที่ร้อยตรีโรจนพงศ์ ไชยสิทธิ์ หัวหน้าโครงการ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดไร่ลูกผสมที่พัฒนาโดยภาครัฐโดยการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสมเพื่อพัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดไร่ในจังหวัดนครราชสีมา ร่วมในพิธีดังกล่าว ณ ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข่าวฟ่างแห่งชาติ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
           นางสาวกุลวรา โชติพันธุ์โสภณ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวว่า จากปัญหาปริมาณผลผลิต “ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และถั่วลิสง” ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด เนื่องจากผลผลิตมีน้อยในขณะที่ความต้องการของโรงงานอาหารสัตว์มีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคปศุสัตว์ เนื่องจากเป็นวัตถุดิบหลัก
ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ สวก.ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว เนื่องจากข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และถั่วลิสงถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อประเทศไทยที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรปีละไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท จึงมีนโยบายสนับสนุนทุนวิจัยให้กับผลงานที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ในการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้าเกษตรภายใต้นโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ควบคู่ไปกับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนภาคการเกษตรให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีรายได้ที่มั่นคงมาอย่างต่อเนื่อง
           สำหรับงานในวันนี้ได้มีการนำนิทรรศการผลงานวิจัยที่สวก. ได้สนับสนุนทุนวิจัยประจำปีงบประมาณ 2566 – 2567 ให้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้ร่วมงาน จำนวน 4 โครงการ ดังนี้
         1.โครงการ “การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดไร่ลูกผสมที่พัฒนาโดยภาครัฐโดยการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสมเพื่อพัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดไร่ในจังหวัดนครราชสีมา” และ โครงการ “การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์เชิงธุรกิจ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมพันธุ์ใหม่ของภาครัฐสำหรับกลุ่มเกษตรกรจังหวัดนครราชสีมา” เป็นการพัฒนาพันธุ์ข้าวโพดที่มีจุดเด่นสำคัญ คือ ต้านโรค โตไวและให้ผลผลิตสูงมากกว่า 1,600 กก./ไร่ เหมาะกับพื้นที่การเลี้ยงภาคกลางตอนบนและอีสาน โดยเป็นงานวิจัยที่พัฒนาต่อยอดข้าวโพดสายพันธุ์ สุวรรณ 5720 (sw 5720) และ สุวรรณ 5821 (sw 5821) จากเดิมที่มีการพัฒนาสายพันธุ์จนได้รับการขึ้นทะเบียนพันธุ์ไปเมื่อปี พ.ศ.2563 แต่ยังขาดเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการเลี้ยงในพื้นที่สภาพนา เนื่องจากมีความชื้นสูงทำให้เกิดโรคและมีปัญหาด้านการงอก โครงการวิจัยนี้จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
         ปัจจุบัน ได้มีกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 3 กลุ่ม รวม 65 ราย พื้นที่ประมาณ 2,000 ไร่ นำพันธุ์ข้าวโพดดังกล่าวไปเพาะปลูกพบว่าสามารถให้ผลผลิตเป็นที่พึงพอใจอย่างมาก สามารถให้ปริมาณผลผลิต 1,750-1,980 กก./ไร่ และพร้อมที่จะนำพันธุ์ไปขยายพื้นที่การเพาะปลูกในพื้นที่ที่เหมาะสมต่อไป
         2. โครงการ “การประเมินผลผลิตและเสถียรภาพผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมเดี่ยวดีเด่นเพื่อปลูกในฤดูฝนและฤดูแล้งเขตภาคกลาง” เป็นโครงการที่พัฒนาข้าวโพดสายพันธุ์ใหม่สุวรรณ 6420 (sw 6420)  สุวรรณ 6480 (sw 6480) โดยชูจุดเด่นตรงที่ทนแล้งได้ดี เหมาะกับการเพาะปลูกสภาพไร่ในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ที่สำคัญให้ผลผลิตสูงมากกว่า 1,700 กก./ไร่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนพันธุ์ในขั้นตอนสุดท้าย ก่อนที่จะเผยแพร่เมล็ดพันธุ์ออกสู่เกษตรกรเพื่อนำไปต่อยอดในการเพาะปลูกต่อไป
           3. โครงการ “การพัฒนาพันธุ์ถั่วลิงสงและเทคโนโลยีการผลิตเพื่อเพิ่มผลผลิตสำหรับเขตภาคกลางและภาคเหนือของประเทศไทย” เป็นโครงการที่พัฒนาถั่วลิงสงสายพันธุ์ “เคยู อาร์ด้า 20 (KU ARDA 20)” โดยมีจุดเด่นที่สำคัญ คือ โตดี ทนโรค ให้ผลผลิตสูงมากกว่า 400 กก./ไร่ เหมาะกับการเลี้ยงในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง เหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ถั่วลิสงอบกรอบและถั่วเคลือบ ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนพันธุ์เรียบร้อยแล้วและได้มีเกษตรกรได้นำพันธุ์ไปใช้ซึ่งพบว่าผลผลิตออกมาเป็นที่พึงพอใจ สามารถสนับสนุนฐานการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการบริโภคและใช้ในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ คาดว่าถั่วลิงสงสายพันธุ์ “เคยู อาร์ด้า 20”  จะสามารถสร้างมูลค่าจากการผลิตถั่วลิสงในประเทศได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าปีละ 100 ล้านบาท
         นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การชมแปลงสาธิตเทคโนโลยีการปลูกพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมสายพันธุ์สุวรรณ 5720 และ สุวรรณ 5821 การชมแปลงสาธิตเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสม การชมแปลงสาธิตพันธุ์ถั่วลิสง ตลอดจนการนิทรรศการให้ความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และพันธุ์ถั่วลิสง
         นางสาวกุลวรา โชติพันธุ์โสภณ กล่าวในตอนท้ายว่า สวก. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการวิจัยทั้ง 4 โครงการนี้จะช่วยลดปริมาณการนำเข้าเมล็ดพันธุ์จากต่างประเทศปีละหลายพันล้านบาทด้วยการใช้พันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ และเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับพันธุ์ ซึ่งจะส่งผลให้ผลผลิตสูงขึ้น สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตให้ลดลง ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น  ทั้งนี้ สำหรับผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักสนับสนุนงานวิจัย (กลุ่มข้าวและพืชไร่) เบอร์โทรศัพท์. 080-605-6561 และ 02 – 579-7435 ต่อ 201
RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments