กรมส่งเสริมการเกษตร เล็งออกนโยบาย งดรับซื้อมันสำปะหลังพันธุ์อ่อนแอ “ระยอง 11 และรหัสพันธุ์ 89″ แนะเกษตรกรใช้พันธุ์ทนโรคในการปลูกรอบใหม่ เพื่อลดเสี่ยง”โรคใบด่าง” พร้อมผนึก TTDI กระจายมันสำปะหลังพันธุ์ต้านทาน แก่เกษตกรอย่างเป็นระบบ
การปลูกมันสำปะหลังเป็นกิจกรรมทางการเกษตรที่สำคัญในประเทศไทย แต่ความรุนแรงของโรคใบด่างมันสำปะหลังที่เกิดขึ้น ทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า เกษตรกรควรพิจารณาเลือกปลูกพันธุ์มันสำปะหลังที่ทนทานต่อโรค ตัวอย่างเช่น ระยอง 72, เกษตรศาสตร์ 50 และห้วยบง 60 เป็นต้น เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคใบด่างมันสำปะหลัง พร้อมแนะนำให้หมั่นสำรวจแปลงปลูกเป็นประจำเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคอย่างถูกวิธี และดำเนินการตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร เช่น กำจัดต้นที่พบโรคโดยการตัดทิ้งและนำไปทิ้งในถุงพลาสติกสีดำ หรือแจ้งสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ทราบ เพื่อช่วยควบคุมโรคใบด่างมันสำปะหลังไม่ให้ลุกลามสร้างความเสียหายในวงกว้าง
“เกษตรกรบางรายนิยมนำท่อนพันธุ์มันสำปะหลังในรอบการปลูกที่ผ่านมาเพาะขยายในฤดูกาลปลูกใหม่เพื่อบริหารจัดการต้นทุน จึงเกิดความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคใบด่างมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่อง หากท่อนพันธุ์ที่เก็บเกี่ยวในฤดูกาลก่อนของเกษตรกรติดโรคใบด่างมันสำปะหลัง โดยเฉพาะ ระยอง 11 และรหัสพันธุ์ 89 ซึ่งมีความเสี่ยง ในการติดโรคใบด่างมันสำปะหลังได้ง่าย”
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการควบคุมและกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลัง มูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย (TTDI) ได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตรในการสนับสนุนพันธุ์มันสำปะหลังที่ผ่านกระบวนการวิจัยของ TTDI เพื่อนำมาปลูกขยายพันธุ์ในศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่อยู่ในภูมิภาคหรือพื้นที่จังหวัดที่มีเกษตรกรเพาะปลูกมันสำปะหลัง จำนวน 7 ศูนย์ ประกอบด้วย ชลบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ พิษณุโลก มหาสารคาม สุพรรณบุรี และอุดรธานี
โดย TTDI ยินดีให้ความร่วมมือและคาดว่าจะสามารถส่งมอบต้นพันธุ์มันสำปะหลังต้านทานซึ่งใช้เทคโนโลยีการขยายพันธุ์แบบเร่งรัด (X20) ให้แก่กรมส่งเสริมการเกษตรประมาณ 250,000 ต้น ในช่วงเดือนธันวาคม 2566 ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรได้วางแผนและเตรียมพร้อมในการผลิตขยายและกระจายมันสำปะหลังพันธุ์ต้านทานนี้อย่างเป็นระบบ
“ก่อนส่งมอบท่อนพันธุ์ให้กับกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่มันสำปะหลังและเกษตรกรภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลังที่มีศักยภาพและได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตท่อนพันธุ์สะอาดนำไปเพาะปลูกขยายผลในรูปแบบของธนาคารแปลงพันธุ์มันสำปะหลังสะอาด ขณะเดียวกันจะต้องพัฒนาเกษตรกรภายใต้ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน (ศจช.) ให้มีความรู้ความเข้าใจและมีส่วนร่วมในการตรวจคัดกรองแปลงพันธุ์ของเกษตรกรที่ร่วมโครงการดังกล่าว และตรวจรับรองแปลงพันธุ์โดยคณะกรรมการ อีก 1 ครั้งในช่วง 1 เดือนก่อนเก็บเกี่ยว หากผ่านเกณฑ์มาตรฐานจึงจะรับรองให้เป็นแปลงพันธุ์มันสำปะหลังสะอาดสำหรับใช้ในการเพาะปลูกและขยายพันธุ์สู่เกษตรกร เพื่อเพิ่มทางเลือกและควบคุมไม่ให้เกษตรกรใช้พันธุ์อ่อนแอหรือเสี่ยงต่อการติดโรคใบด่างมันสำปะหลังต่อเนื่อง ”
นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรับซื้อมันสำปะหลังทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมวางนโยบายงดรับซื้อมันสำปะหลังพันธุ์อ่อนแอ ได้แก่ ระยอง 11 และรหัสพันธุ์ 89 ในเร็ว ๆ นี้ กรมส่งเสริมการเกษตร จึงแนะนำให้พี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังทุกพื้นที่เตรียมพร้อมปรับเปลี่ยนไปใช้พันธุ์ทนทานในฤดูการเพาะปลูกรอบใหม่ของตนที่กำลังจะถึง เพื่อป้องกันปัญหาการตลาดและผลกระทบต่อรายได้ในอนาคต
Recent Comments