ชาวนาทั่วประเทศ เช็คด่วน! เร่งแก้ไขโรคระบาดนี้ ก่อนขยายวงกว้างจนหมดตัว

เนื่องจากประเทศไทยในช่วงนี้อยู่ในฤดูฝน ฝนตกติดต่อกันหลายวัน ส่งผลความชื้นในอากาศสูง สภาพแวดล้อมแบบนี้ เหมาะต่อการระบาดของโรคเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ “โรคขอบใบแห้งข้าว” (Bacterial Leaf Blight Disease) ที่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในทุกภาคของประเทศไทยต้องเฝ้าระวังการระบาดของโรคขอบใบแห้งอย่างใกล้ชิด

โดยขอให้เกษตรกร สำรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ หากพบข้าวแสดงอาการของโรค ให้ดำเนินการควบคุมและป้องกันกำจัดก่อนเกิดการระบาครุนแรง หรือสามารถขอคำแนะนำได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน

สำหรับ “โรคขอบใบแห้งข้าว” มีสาเหตุมาจาก เชื้อแบคที่เรีย Xanthomonas oryzce pv.ory zae (ex Ishiyama) Swings el al. ลักษณะอาการพบได้ตั้งแต่ระยะกล้า แตกกอ จนถึงออกรวง ต้นกล้าก่อนนำไปปักดำจะมีจุดเล็ก ๆ ลักษณะช้ำที่ขอบใบของใบล่าง ต่อมาประมาณ 7 – 10 วัน จุดช้ำนี้จะขยายกลายเป็นทางสีเหลืองยาวตามใบข้าว ใบที่เป็นโรคจะแห้งเร็วและสีเขียวจะจางลงเป็นสีเทา ๆ อาการในระยะปักคำจะแสดงหลังปักคำแล้วหนึ่งเดือนถึงเดือนครึ่ง ใบที่เป็นโรคขอบใบมีรอยขีดช้ำ ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ที่แผลมีหยดน้ำสีครีมคล้ายยางสนกลม ๆ ขนาดเล็กเท่าหัวเข็บหมุด

ต่อมาจะกลายเป็นสีน้ำตาลและหลุดไปตามน้ำหรือฝน ซึ่งจะทำให้โรคสามารถระบาดต่อไปได้ แผลจะขยายไปตามความยาวของใบบางครั้งขยายเข้าไปข้างในตามความกว้างของใบ ขอบแผลมีลักษณะเป็นขอบลายหยัก แผลนี้เมื่อนานไปจะเปลี่ยนเป็นสีเทา ใบที่เป็นโรคขอบใบจะแห้งและม้วนตามความยาว ในกรณีที่ต้นข้าวมีความอ่อนแอต่อโรคและเชื้อโรคมีปริมาณมาก จะทำให้ท่อน้ำ ท่ออาหารอุดตัน ต้นข้าวจะเหี่ยวเฉาและแห้งตายทั้งต้นอย่างรวดเร็ว การแพร่ระบาด สามารถแพร่ไปกับน้ำ และแพร่ระบาดได้ดีใน สภาพแวดล้อมที่มีความขึ้นสูง เช่น ฝนตก ลมพัดแรง เป็นต้น

วิธีการป้องกันกำจัด ดังนี้
1. หมั่นสำรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ
2. ใช้พันธุ์ข้าวที่ต้านทาน เช่น พันธุ์สุพรรณบุรี 60 สุพรรณบุรี 90
สุพรรณบุรี 1 สุพรรณบุรี 2 กข 7 และ กข 23
3. ในดินที่อุดมสมบูรณ์ไม่ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจนปริมาณมาก
4. ไม่ควรระบายน้ำจากแปลงที่เป็นโรคไปสู่แปลงอื่น
5. ควรเฝ้าระวังการเกิดโรค ถ้าปลูกข้าวพันธุ์ที่อ่อนแอต่อโรคนี้ เช่น
พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 กข 6 เหนียวสันป่าตอง พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1
6. เมื่อเริ่มพบอาการของโรคบนใบข้าวให้ใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืช
โดยเลือกใช้สารชนิดใดชนิดหนึ่งตามอัตราที่ฉลากระบุเช่นไอโซโพรไทโอเลน
หรือคอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ หรือเสตร์พโตมัยซินซัลเฟต + ออกซีเตทตรา
ไชคสินไฮโดรคลอร์ไรด็ หรือ ไตรเบซิคอปเปอร์ซัลเฟต

ทื่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร